วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์

รูปภาพปกจาก. www.dreamjews.blogspot.com
กิจกรรมที่ 2

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์


ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
     คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ


1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา          (EducationalMedia)

2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ                       (Tools Development)

3. โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี               (Theory Experiment)

4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน     (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม                                 (Game Development)




1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
     เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้

      โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน

 ตัวอย่างเช่น 

Ø สารานุกรมไทยฉบับมัลติมีเดีย
Ø สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
Ø พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
Ø โปรแกรมช่วยสอนการถ่ายภาพ
Ø 76 จังหวัดของไทย
Ø โปรแกรมช่วยสอนการทำงานของทรานซิสเตอร์
Ø คอมพิวเตอร์สอนพิมพ์ดีด
Ø ยาไทยและยาจีน
Ø สูตรขนมไทยอร่อยทั่วโลก
Ø โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล 
Ø โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ


2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)

         

     เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนำไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สำหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ 

ตัวอย่างเช่น 
Ø โปรแกรมการค้นหาคำภาษาไทย
Ø โปรแกรมอ่านอักษรไทย
Ø โปรแกรมวาดภาพสามมิติ
Ø โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
Ø โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
Ø โปรแกรมประมวลผลคำไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
Ø โปรแกรมการออกแบบผังงาน
Ø พอร์ตแบบขนานของไทย
Ø การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
Ø โปรแกรมประเภท 3D


         

3. โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)


     เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจำลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคำอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีการจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี

ตัวอย่างเช่น  
  • การทดลองเรื่องการไหลของเหลว
  • การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า
  • ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ
  • การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
  • การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
  • การทำนายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา
  • การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
  • ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
  • ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
  • การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้มข้อมูล
  • โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
  • โปรแกรมจำลองการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล


4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(Application)



     เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน              เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สำหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำงานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย


ตัวอย่างเช่น
  • ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
  • ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
  • ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
  • ระบบแนะนำเส้นทางเดินรถประจำทาง
  • โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสำหรับคนตาบอดบนรถประจำทาง
  • โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
  • เว็บไซต์ส่วนบุคคล
  • โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
  • โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ


5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)

         

     เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคำนวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ

ตัวอย่างเช่น
  • เกมอักษรเขาวงกต
  • เกมเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
  • เกมผจญภัยกับภาษาอังกฤษ
  • เกมหมากฮอส
  • เกมบวกลบเลขแสนสนุก
  • เกมอักษรไขว้

ตัวอย่างโครงงานที่น่าสนใจ

เพิ่มเติมได้ที่ http://www.vcharkarn.com/project/cat/1

หมวดหมู่หัวข้อโครงงานคอมพิวเตอร์ดาวโหลด
นาโนอิเล็กทรอนิกส์ " ไมโครชิพ "
11
โครงงานคอมพิวเตอร์ โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี
57323
การรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุในที่ทำงานของพนักงานสายการผลิต
5414
For-rest (Forrest) เพื่อพักผ่าน (ป่า)
7215
แลกเปลี่ยนมุมมอง (Eye Xchange) 
6317
ประเทศไทยทาสีเขียว ( Paint On Thailand )
27892
การพัฒนาระบบควบคุมไฟฟ้าโดยใช้ Zigbee(Power Control System Development by Zigbee)
27086
พลพรรครักษ์โลก Green DNA (Green Digital Natural Areas)
12
ระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อการดำเนินธุรกิจ
6095
มวยไทย ไกลก้องโลก
16054
การประยุกต์ใช้ระบบบาร์โค้ดกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการซื้อขายสินค้า
10171
Let’s Time For Health
15454
องค์ดำ บุรุษแห่งสยาม
6396
ซอฟต์แวร์ uGuide ไกด์ส่วนตัวฉบับพกพา
7105
แบบจำลองผสมแบบแยกแยะสำหรับการแบ่งคำไทย
4500
การแบ่งคำภาษาไทยด้วยเทคนิคไตรแกรม
6694
ซีพีเอสเคคัท
4159
วจีวิภาคสมุทร SEA Parsing
4136
แชร์เล่น (SHAREnge)
11516
คูวส์ (CUWS)

ตัวอย่างโครงงานแต่ละประเภท

Cr. http://www.slideshare.net/cucumberptw/ss-25372018


ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.krukaewta.net/web1/ng23101/unit1/example_of_computer_project.html
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4/ComputerProject/content1.html

กิจกรรมที่ 1 องค์ความรู้โครงงานคอมพิวเตอร์

*+*+  กิจกรรมที่  1  *+*+

ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
          โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ กิจกรรมอิสระที่นักเรียนสามารถเลือกศึกษาตามความสนใจ โดยใช้ทักษะตลอดจนประสบการณ์ของนักเรียนด้านคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ นักเรียนจะต้องวางแผนดำเนินงานศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง กิจกรรมที่จัดว่าเป็นโครงงานควรมีองค์ประกอบหลักดังนี้

  1. เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
  2. นักเรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา ค้นคว้า พัฒนา
  3. เก็บรวบรวม หรือประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเองตามความสนใจ และระดับความรู้ ความสามารถ
  4. นักเรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา สรุป และเสนอผลการศึกษาด้วยตนเอง โดยมีครูผู้สอนเป็นที่ปรึกษา
        โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นงานวิจัยในระดับนักเรียน เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อนำผลที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือใช้เพื่อช่วยสร้างสื่อเพื่อเสริมการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ และฝึกฝนการใช้ทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้างผลงานจริงอีกด้วย
        การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น นักเรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เหตุผลที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น และการแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทำโครงงานนักเรียนอาจมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ฐานข้อมูล (Database) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่นักเรียนเลือกทำโครงงาน



ความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์

จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่ที่การส่งประกวดเพื่อรับรางวัล แต่เป็นโอกาสที่นักเรียนจะได้ประสบการณ์ตรงในการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ตลอดจนแสดงผลงานของตนเองเพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครองและผู้ที่สนใจในชุมชนทราบเมื่อมีการจัดกิจกรรมของโรงเรียนหรือหน่วยงานอื่น ๆ

การทำโครงงานคอมพิวเตอร์และการจัดงานแสดงโครงงานจะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้นักเรียนมีความรู้ ความชำนาญ และมีความมั่นใจในการนำระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเองและยังมีคุณค่าอื่น ๆ อีกดังต่อไปนี้
  1. สร้างจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
  2. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
  3. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่นักเรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องเรียนปกติ
  4. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
  5. กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนวิชาสาขาคอมพิวเตอร์ และมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้
  6. ส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
  7. สร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน ครู และชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุนชนสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
  8. เป็นการบูรณาการความรู้จากวิชาต่าง ๆ ที่ได้รับ มาจัดทำและผสมผสานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นโครงงานเพื่อนำเสนอต่อชุมชน
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์

                                       Cr. ขอบข่ายของโครงงาน from Sasithorn Horprasong
โครงงานคอมพิวเตอร์

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 6 ข้อสอบ 7 วิชาหลัก

Cr. http://www.theactkk.net/home/homenew1/DetailsNews.asp?TID=5540

7 วิชาสามัญ คืออะไร และต้องสอบทั้ง 7 วิชาเลยไหม
        สทศ. บอกมาว่าเป็นข้อสอบที่ยากกว่า O-NET แต่ง่ายกว่า GAT PAT จัดทำขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในอดีตที่สมัยก่อนหากเด็ก ม.6 สมัครรับตรง 5 ที่ ก็ต้องวิ่งหัวฟูไปสอบ 5 ครั้ง แต่หากเป็นปีนี้สบายมาก ไม่ว่าจะสมัครกี่ที่ ก็สอบแค่ครั้งเดียวจบ คือ สอบ 7 วิชาสามัญครั้งเดียว ชุดเดียว ทั่วประเทศจบไปเลย โดย 7 วิชาสามัญนี้แต่ละคณะจะสอบไม่เท่ากันนะครับ บางคณะก็สอบหมด 7 วิชา บางคณะก็สอบแค่ 3 ดังนั้น น้องๆ ต้องไปดูในระเบียบการรับตรงแต่ละมหาวิทยาลัย ว่าคณะที่เราจะเข้า เขาได้มากำหนดให้สอบวิชาไหน ส่วนมหาวิทยาลัยไหนไม่กำหนด ก็ไม่ต้องสอบจ้า
Cr. http://www.dek-d.com/admission/26262/

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2555 (สอบ ม.ค. 2555)


*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2556 (สอบ ม.ค. 2556)


*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2557 (สอบ ม.ค. 2557)


*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+**+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+***+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ขอขอบคุณ ที่มา ไฟล์ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

skyDrive รวบรวมไฟล์ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ โดย เอกพล อนันตภูมิ
                        -  https://www.facebook.com/paracetablog
                           - Facebook : SUCKSEED สำหรับคนที่มีฝันจะเป็นหมอ และก้าวไปพร้อมๆกัน
Enconcept E-Academy
อาจารย์ บุญช่วย ภัทรเลิศศิริ
อาจารย์ สนธยา เสนามนตรี
- อาจารย์ ดร.ธนพงษ์ กรีธาดำรงเดช หรือ อ.บิ๊ก A.BIG CENTER 
อาจารย์ Rath Limprasittiporn Website : http://rathcenter.com
   อาจารย์ Sila Sookrasamee คุณครูวิชาคณิตศาสตร์
          - พี่อุ๋ย http://www.tutoroui.com และ http://www.tutoroui-plus.com
          ชูเกียติ ตันติวงศ์ – ชูเส็ง ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
          ทุกคน ที่ร่วมกันแชร์ไฟล์ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ


Cr. http://webboard.yenta4.com/topic/522218


7 วิชาสามัญ คืออะไร ??

                   

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=P4-cI4FsZ28